ถาม-ตอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

อะไรคือแซนโทน?
แซ นโทนเป็นชื่อของสารประกอบที่สามารถพบได้ในธรรมชาติ และมีลักษณะคล้ายวิตามิน แซนโทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลการทำงานของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ให้ทำงานปกติและ เหมาะสม โครงสร้างทางเคมีของแซนโทนมีรูปร่างเหมือนแหวนเพชรสามวงเกี่ยวกันเป็นห่วง คล้ายรังผึ้ง สิ่งที่ทำให้แซนโทนมีความโดดเด่นหนือสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆที่พบใน ธรรมชาติ
แซนโทนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?
มี คุณประโยชน์แก่ร่างกายในหลายประการ เช่นฤทธิ์ในการลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจ  ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัสที่อยู่นอกเซลล์ และเชื้อรา ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถจัดการกับสิ่งแปลกปลอมทางชีวภาพนี้ได้ ดียิ่งขึ้น  ลดการเกิด Oxidized LDL Cholesterols ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือด และโรคหัวใจขาดเลือด  ลดอาการอักเสบช้ำบวม, ลดอาการปวดข้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อต่างๆทั่วร่างกาย
ปัจจุบัน ยังมีนักวิทยาศาสตร์และบุคคลากรทางการแพทย์ทำการวิจัยเพื่อไขความลับจากสาร ประกอบแซนโทนในธรรมชาติ อาทิเช่น  ฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ เช่นเซลล์มะเร็งตับ (Liver cancer), เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) ฯลฯ ในระดับห้องปฏิบัติการและสัตว์ทดลอง และยังมีความลับอีกมากมายของสารประกอบแซนโทนที่รอการค้นพบ
Reference : Garcinone E.a xanthone derivative has potent cytotoxic effect against the patocellular carcinoma cell lines.Planta Med 2002  Nov:6B(11);975-9
ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับคุณสมบัติของแซนโทนเชื่อถือได้หรือไม่?
เชื่อ ถือได้ค่ะ เนื่องจากการวิจัยคุณสมบัติของสารแซนโทนมีข้อมูลการวิจัยทั่วโลกค่ะ และสามารถค้นหาข้อมูลได้จากwebsite หรือ แหล่งข้อมูลอ้างอิงต่างๆได้ค่ะ
Reference :
Anthony C,Dweck FLS FRSH FRSC, A Review of Mangosteen (Garcina Mangosteen) Linn
Asai F , Tosa H , Tanaka T and linuma M. A xanthone from pericaps of Garcinia Mangostana.Phytochemistry(1995) 39(4) ;943-344
สามารถสกัดแซนโทนได้จากผลไม้ชนิดใดบ้าง?
ได้จากผลไม้หลายชนิด เช่น ทับทิม ก็มีสารแซนโทนอยู่ในปริมาณค่อนข้างสูง แต่พบมากสุดในมังคุด
อะไรคือคะแนนโอแรค?
ORAC  Score  หรือคะแนนโอแรค   ซึ่งย่อมาจาก  Oxygen  Radical  Absorbance  Capacity  เป็นคะแนนที่ได้จากการทดลองหาค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของอาหารจาก ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์  กรรมวิธีและกระบวนการในการตรวจหาค่า  ORAC Score  ของอาหารแต่ละชนิดเป็นวิธีการมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ  มีความสลับซับซ้อน   และค่าที่ได้จากการทดลองก็สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานในการประเมินประสิทธิภาพ ของอาหารแต่ละชนิดที่มีความสามารถในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาหารที่มีค่า ORAC Score  สูงก็จะมีประสิทธิภาพในการต้านทาน   และลดอุบัติการณ์ของโรคร้ายหลายชนิดซึ่งมีสาเหตุจากอนุมูลอิสระ   เช่น  โรคมะเร็ง  และโรคหัวใจ  เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ที่มีค่าคะแนนโอแรคสูงมีประโยชน์อย่างไร?
ผลิตภัณฑ์ ที่มีค่าโอแรคสูงยังสามารถปกป้องเซลล์และองค์ประกอบของเซลล์ให้ปลอดภัยจาก การถูกทำลายเสียหายจากกระบวนการอ๊อกซิเดชั่น  (Oxidative  Damage)  ซึ่งเป็นผลมาจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างอนุมูลของออกซิเจน  (Oxygen  Radicals)  และสารเคมีต่างๆ   ที่สะสมอยู่ตามธรรมชาติภายในร่างกาย  กระบวนการเหล่านี้แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองกับทุกๆ คนในทุกๆวัน  กิจวัตรประจำวัน  เช่น  การทำงาน  การรับประทานอาหาร   อากาศที่ไม่บริสุทธิ์  แสงแดด   และคลื่นแม่เหล็กจากเครื่องใช้ไฟฟ้า   แม้แต่กระบวนการย่อยอาหารที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย  ก็ล้วนเป็นกลไกที่สามารถสร้างอนุมูลของออกซิเจนขึ้นได้เอง
ในแต่ละวันเราควรบริโภคอาหารที่มีค่าคะแนนโอแรคเท่าไร?
ใน แต่ละวันการรับประทานอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลค่ะ ซึ่งอาจจำแนกตามช่วงอายุ หรือตามปัจจัยเสี่ยงของแต่ละบุคคล จากการวิจัยพบว่าร่างกายต้องการสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 3,000 – 5,000 หน่วย เพื่อที่จะทำให้สุขภาพดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรค
การบริโภคอาหารเสริมที่มีค่าคะแนนโอแรคสูงช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างไร?
ยิ่ง ค่าโอแรคสูงขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีมากขึ้น  ซึ่งอนุมูลอิสระก็เป็นภัยร้ายสำหรับโรคภัยไข้เจ็บที่ตามมาค่ะ
เหตุใดในผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคจึงมีส่วนผสมของโกจิเบอร์รี่และทับทิมด้วย?
เนื่อง จากทั้งทับทิมและโกจิเบอร์รี่ก็เป็นสุดยอดผลไม้ หรือที่เราเรียกกันว่า Superfruit ค่ะ เมื่อนำมาผสมผสานกันก็จะได้รสชาติที่ลงตัว มีคุณค่าเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยทับทิมเองมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมากแถมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซียม ส่วนโกจิเบอร์รี่ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกลาง ในตำราแพทย์แผนจีน พบว่า โกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก จึงช่วยในเรื่องชลอความเสื่อมของเซลล์ได้
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคได้รับตราฮาลาลหรือไม่?
ได้รับการรับรองมาตราฐานจากฮาลาล เลขที่ 91 A971 008 05 81 ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคเป็นผลิตภัณฑ์มังสวิรัติหรือไม่?
เป็นมังสวิรัติค่ะ เนื่องจากในผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยสารอาหารจำพวกผลไม้เท่านั้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคสามารถใช้เพื่อรักษาโรคอะไรได้บ้าง?
เนื่องจากผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นยา จึงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนการวินิจฉัยหรือการรักษาของแพทย์
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างไร?
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคเมื่อรับประทานไปจะทำให้สุขภาพดีเนื่องจากในผลิตภัณฑ์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคผลิตขึ้นที่ใด?
ผลิต ภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคผลิตที่โรงงาน ทาโกฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับมาตราฐาน GMP, HACCP, Q BRAND ,HALALโดยคุณภาพที่ผลิตเป็นคุณภาพเดียวกับที่ส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคเหมาะสำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร และคนชราหรือไม่?
สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ทานค่ะ
ส่วนคนชรา และ คนป่วย นั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทานทุกครั้งค่ะ
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคมีคุณภาพแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆในท้องตลาดอย่างไร?
ผลิตภัณฑ์ ของทางบริษัทเรามีข้อแตกต่างจากที่อื่นค่ะ ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรค  คือ ผลผลิตจากงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์อาหารมาอย่างลึกซึ้งและยาวนาน  และ เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคิดค้นเพื่อตอบโจทย์สำหรับงานวิจัยทางด้านอาหาร เพื่อสุขภาพ องค์ประกอบที่ลงตัวในผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรค ประกอบขึ้นจากการคัดสรรผล ไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายชนิด เช่น มังคุด , โกจิเบอรี่ , และทับทิม เพื่อสกัดหาสารประกอบตามธรรมชาติที่ทรงคุณค่าและผ่านกระบวนการ ผลิตภัณฑ์อัน ทันสมัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลากหลายด้านและ เหมาะที่จะ เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ  ซึ่ง ให้ประโยชน์แก่ร่างกายในหลากหลายมิติ แต่ยังสามารถ ผสานคุณค่าตามธรรมชาติของผลทับทิมและผลโกจิเบอรี่ไว้ได้ อย่างกลมกลืน ภายใต้รสชาติที่คงความหวานอมเปรี้ยว  อร่อย.. แม้ว่าจะปราศจากการใส่น้ำตาลและ สารกันบูดรวมทั้งไม่ผ่านการแต่งสีและกลิ่นใด ๆ ทั้งสิ้น  เพื่อให้ผลิต ภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรค เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความใกล้เคียงความบริสุทธิ์จากคุณ ค่าตามธรรมชาติให้ได้ มากที่สุด
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และสารสเตียรอยด์หรือไม่?
ไม่ มีส่วนผสมทั้งแอลกอฮอล์และสารสเตียรอยด์ค่ะ สารสเตียรอยด์ นั้นเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้นในร่างกายของคนเรา มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมหาศาล ทางการแพทย์จึงได้นำสารนี้มาใช้รักษาโรคต่าง ๆ มากมาย แต่การนำสารนี้มาใช้อย่างพร่ำเพรื่อ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือความเห็นแก่ได้ของผู้ประกอบการบางราย อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผู้บริโภคจึงควรใช้วิจารณญานในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้
Reference : ศักดิ์ บวร. คู่มือใช้ยา. พิมพ์ครั้งที่ 3. 94-98.เจริญวิทย์การพิมพ์, 2541.
http://www.yourhealthyguide.com/article/ag-sterroid.htm
ในผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคแต่ละขวด มีส่วนผสมที่สกัดจากผลไม้แต่ละชนิดในปริมาณเท่าใด?
ส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์มี มังคุด 60 % ทับทิม 39.2 % และ โกจิเบอร์รี่ 0.8 %
ควรบริโภคผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคในเวลาใด และขนาดเท่าใด?
เวลา ที่เหมาะสมจะเป็นก่อนอาหาร หรือหลังอาหารก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความเหมาะสม โดยในแต่ละวันแนะนำให้ทานวันละ30 -  60 มิลลิลิตร จะทานครั้งเดียวหรือแยกทานเป็นครั้งละ 30 มิลลิลิตรก็ได้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคมีส่วนประกอบของน้ำตาลหรือไม่?
ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำตาล รสชาติความหวานที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวผลไม้ค่ะ
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ก่อนบริโภคผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรค
ก่อน อื่นคนที่เป็นโรคเฉพาะทางหรือที่เรียกว่าโรคประจำตัวของแต่ละบุคคล เช่นโรคเบาหวาน ควรที่จะปรึกษาแพทย์ที่ทำการวินิจฉัยโรคก่อน  เนื่อง จากการวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยแต่ละรายมีรายละเอียดข้อมูลที่แตกต่างกัน และผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคไม่ใช่ยาดังนั้น การทานซุปเปอร์โพร์แรคสามารถทานได้แต่ไม่ควรยกเลิกการทานยาที่ต้องทานประจำ แพทย์จะเป็นคนวินิจฉัยให้มีการปรับเพิ่มหรือลดขนาดยาเอง
คำแนะนำอื่นๆสำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค
ผลิตภัณฑ์ ของทางบริษัทไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะค่ะ สำหรับคำแนะนำสำหรับผู้ป่วย คือ หมั่นตรวจสุขภาพร่างกาย ไปพบแพทย์ตามนัด ทานยาตรงตามที่แพทย์สั่ง และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หลังเปิดขวด จำเป็นจะต้องเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรคไว้ในตู้เย็นหรือไม่?
หลังจากเปิดขวด ต้องเก็บผลิตภัณฑ์นี้ไว้ในตู้เย็นเท่านั้นค่ะ หากยังไม่ได้เปิดขวดสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิปกติได้ 1 ปี ค่ะ
อะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เสียก่อนเวลาอันเหมาะสม และข้อสังเกตุผลิตภัณฑ์ที่เสียแล้ว?
เนื่อง จากผลิตภัณฑ์ไม่ได้ใส่สารกันเสียหรือสารกันบูด จึงอาจจะมีการปนเปื้อนจากปากขวด หรือจากอากาศภายนอก หรือจากสภาวะที่ตู้เย็นอุณหภูมิมีความเย็นไม่เพียงพอ และข้อสังเกตที่ดูว่าผลิตภัณฑ์เสียแล้วคือมีกลิ่นบูด รสชาติมีกลิ่นเปลี่ยนไปจากการเปิดขวดครั้งแรกหรือมีกลิ่นหมักเปรี้ยว หรือมีเชื้อราเกิดขึ้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เสียเนื่องมาจากการจัดเก็บดังกล่าว สามารถเคลมเปลี่ยนที่บริษัทฯได้หรือไม่?
ผลิตภัณฑ์ ที่เสียเนื่องจากการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมไม่สามารถแลกเปลี่ยนคืนได้ค่ะ เนื่องจากทางบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์มาอย่างพิถีพิถัน และได้แจ้งให้ทราบแล้วตั้งแต่ต้นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดจากสารกันเสีย หรือสารกันบูด ดังนั้นการเก็บรักษาเมื่อเปิดขวดแล้วควรเก็บไว้ตู้เย็นเท่านั้นค่ะ แต่หากพบว่าผลิตภัณฑ์เสียหายจากสาเหตุอื่นๆ ให้ศึกษาเรื่องเงื่อนไขการขอเคลมคืนสินค้าของทางบริษัทค่ะ
ผลิตภัณฑ์กาแฟคอฟฟี่โฟร์แรค มีคาเฟอีนเป็นส่วนผสมหรือไม่?
ผลิตภัณฑ์ ไม่ได้ผสมคาเฟอีนลงไปเพิ่มค่ะ แต่คาเฟอีนที่มีในผลิตภัณฑ์เกิดจากตัวกาแฟ โดยที่ในผลิตภัณฑ์ 1 ซอง มีคาเฟอีน 58.7 มิลลิกรัมค่ะ
จำเป็นต้องเก็บรักษาผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์ไว้ในตู้เย็นตลอดเวลาหรือไม่?
ไม่จำเป็นค่ะหากยังไม่ได้เปิดขวด แต่หลังจากเปิดขวดแล้วต้องเก็บไว้ในตู้เย็น หรือแนะนำให้ทานให้หมดค่ะ
แอล-คาร์นีทีนในผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์ มีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย?
แอล คาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ โดย มีการสังเคราะห์จากกรดอะมิโน 2 ชนิดคือ Lysine และ Methionine พร้อมกับอาศัยตัวเร่งให้เกิดการสังเคราะห์ ได้แก่ Niacin วิตามิน B6 C และธาตุเหล็ก โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ หน้าที่หลักของ Carnitine จะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆ เข้า ไปใช้ในเซลล์ต่างๆ ซึ่งในจุดนี้เองที่จะทำให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ดังนั้นหากร่างกายขาดสาร Carnitine หรือมีไม่เพียงพอที่จะเป็นตัวพาเม็ดไขมันไปเผาผลาญแล้วละก็ ปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากไขมันสะสมก็จะเป็นเรื่องตามมาที่สามารถส่งผลเสีย ต่อร่างกายของคุณอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความอ้วน และการสะสมของไขมันตามหลอดเลือด ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และนำมาซึ่งปัญหาไขมันในเลือดสูงและมีความดันโลหิตสูงตามมาได้
ข้อควรระวังในการใช้ L-carnitine มีอะไรบ้าง
สาร ทุกอย่างมีทั้งประโยชน์ และโทษในตัวเอง  ขึ้น กับปริมาณ และช่วงจังหวะเวลาของการใช้ ถึงแม้ว่าแอลคาร์นิทีนจะไม่ปรากฏผลข้างเคียงใดๆ ที่เด่นชัดมากนัก แต่ก็มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าถ้ากินเข้าไปมากขนาด 5 กรัมต่อวัน หรือมากกว่าอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ ส่วนอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจพบได้ เช่น มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น มีกลิ่นตัว และเกิดอาการผื่นแดง สำหรับคนที่มีอาการแพ้ต่ออาหารโปรตีน เช่น ไข่ นม หรือข้าวสาลี ไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่เสริมแอลคาร์นิทีนเป็นอันขาด รวมถึงคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ และไต เด็กที่มีอายุยังไม่ถึง 2 ขวบ และสตรีมีครรภ์ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ถ้าจำเป็นก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์มีวิตามินอะไรบ้าง
ใน ผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์มีวิตามินและเกลือแร่ประกอบด้วย วิตามินเอ บี 1 บี2 บี3 บี6 โฟเลต บี12 วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี ไอโอดีน แมกนีเซียม ซิงค์ คอปเปอร์ และแมงกานีส ค่ะ ซึ่งวิตามินและเกลือแร่เพียงพอสำหรับร่างกายค่ะ
ผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์มีส่วนประกอบของสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางเพื่อช่วยควบคุมความหิวหรือไม่?
ไม่ ได้มีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางค่ะ ในผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์จะใช้ L- Carnitine เพื่อช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆ เข้าไปใช้ในเซลล์ต่างๆ ซึ่งในจุดนี้เองที่จะทำให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน
ส่วน สารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางนั้น มีกลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ ยับยั้งการเก็บกลับ (reuptake) ของสารสื่อประสาทจำพวก ซีโรโทนิน (serotonin)และ นอร์อีพิเนฟริน (norepinephrine) ที่บริเวณสมองส่วนไฮโปธาลามัส (hypothalamic area) ส่งผลให้ความอยากอาหารลดลงและอิ่มเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายได้ เมื่อใช้ไปนานๆจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เป็นอย่างมาก
สามารถรับประทานผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์ได้ต่อเนื่องนานสูงสุดกี่วัน?
สามารถ รับประทานติดต่อกันได้ทุกวันค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนอาหารมื้อหลัก สามารถต่อเนื่องกันได้ โดยไม่มีโทษหรืออันตรายใดๆกับร่างกายค่ะ
ผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์มีส่วนช่วยในกระบวนการล้างพิษ หรือดีท๊อกซ์ ใช่หรือไม่?
ใน ผลิตภัณฑ์สลิมทิพย์มีสารอาหารค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะส่วนที่เป็น Fiber ทำให้มีส่วนช่วยในกระบวนการล้างพิษของร่างกาย โดยจะไปทำหน้าที่ขจัดของเสียจำนวนมากออกจากร่างกาย
การดีท๊อกซ์มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?
  1. ช่วย ทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป  ลดการสะสมสารพิษเหล่านี้ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไปลำไส้จะสามารถทำงานได้ตามปกติ
  2. เป็น การบริหารกล้ามเนื้อลำไส้  ของ เสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อนแอลงและทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น โดยปกติลำไส้มีหน้าที่กำจัดของเสีย ซึ่งก็อาจเป็นไปโดยไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อลำไส้ที่แข็งแรงและทำงานได้ อย่างเป็นจังหวะจะช่วยทำให้การผลักดันของเสียเช่น กากอาหารและ อุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ
  3. ทำ ให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติ จะส่งผลให้โครงสร้างและขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การสวนล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วยลด อาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตันบริเวณนั้น ทำให้ลำไส้มีรูปร่างปกติตามธรรมชาติ ซึ่งการรักษาทางยา ทาน อาหารบางอย่าง เฉพาะบางรายท้องเดินระยะหนึ่งแล้วจะมีอาการท้องผูก อุจจาระแข็งหรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจทำให้ลำไส้กลับคืนสู่รูปทรงปกติได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น
  4. กระตุ้น จุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย   ซึ่ง อวัยวะทุกส่วนจะมีการทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้โดยจุดตอบสนอง การล้างลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียนของเลือด เป็นต้น
  5. ทำ ให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะสามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  พร้อมกับละลายและเจือจางเมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น